เมนู

อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา

[14] โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ กิํ ปุริมสฺมิํเยว, อุทาหุ อญฺญสฺมิํเยว จตุตฺถชฺฌานจิตฺเตฯ อฏฺฐกถายมฺปิ ยโต วุฏฺฐาย ปุริมวิชฺชาทฺวยํ อธิคตํ, ตเทว ปุน สมาปชฺชนวเสน อภินวํ อภิณฺหํ กตนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ อิธ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ เอตฺถาห – ยทิ ตเทว ปุน สมาปชฺชนวเสน อภินวํ กตํ, อถ กสฺมา ปุพฺเพ วิย ‘‘วิปสฺสนาปาทกํ อภิญฺญาปาทกํ นิโรธปาทกํ สพฺพกิจฺจสาธกํ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกํ อิธ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อิธ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ , นนุ อิธ ตถาวจนฏฺฐานเมว ตํ อรหตฺตมคฺเคน สทฺธิํ สพฺพคุณนิปฺผาทนโต, น ปฐมวิชฺชาทฺวยมตฺตนิปฺผาทนโตติ? วุจฺจเต – อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคปฏิปทาวิโมกฺขวิเสสนิยโม ปุพฺพภาควุฏฺฐานคามินีวิปสฺสนาย สงฺขารุเปกฺขาสงฺขาตาย นิยเมน อโหสีติ ทสฺสนตฺถํ วิปสฺสนาปาทกมิธ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตตฺถ ปริยาปนฺนตฺตา, น ตทารมฺมณมตฺเตนฯ ปริยายโตติ อญฺเญนปิ ปกาเรนฯ ‘‘อิเม อาสวา’’ติ อยํ วาโร กิมตฺถํ อารทฺโธ? ‘‘อาสวานํ ขยญาณายา’’ติ อธิการานุโลมนตฺถํฯ มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหตีติ อิทํ เอกตฺตนเยน วุตฺตํฯ ยญฺหิ วิมุจฺจมานํ, ตเทว อปรภาเค วิมุตฺตํ นาม โหติฯ ยญฺจ วิมุตฺตํ, ตเทว ปุพฺพภาเค วิมุจฺจมานํ นาม โหติฯ ภุญฺชมาโน เอว หิ โภชนปริโยสาเน ภุตฺตาวี นามฯ ‘‘อิมินา ปจฺจเวกฺขณญาณํ ทสฺเสตี’’ติ ปจฺจเวกฺขณญาณสฺส จ ปฏฺฐาเน ‘‘มคฺคา วุฏฺฐหิตฺวา มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ผลํ, นิพฺพานํ, ปหีเน กิเลเส ปจฺจเวกฺขตี’’ติ อยมุปฺปตฺติกฺกโม วุตฺโตฯ ปวตฺติกฺกโม ปเนตฺถ สรูปโต อตฺถโตติ ทฺวิธา วุตฺโตฯ ตตฺถ ‘‘วิมุตฺตมิติ ญาณํ อโหสี’’ติ สรูปโต จตุพฺพิธสฺสปิ ปจฺจเวกฺขณญาณสฺส ปวตฺติกฺกมนิทสฺสนํฯ ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทิ อตฺถโตฯ เตเนว อนฺเต ‘‘อพฺภญฺญาสิ’’นฺติ ปุคฺคลาธิฏฺฐานํ เทสนํ อกาสิ ปจฺจเวกฺขณญาณสฺส ตถา อปฺปวตฺติโตฯ อปฺปฏิสนฺธิกํ โหตีติ ชานนฺโต ‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานาติ นามฯ ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสญาณ’’นฺติ อนาคตํสญาณสฺส จ ทิพฺพจกฺขุสนฺนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํฯ

อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา

[15] กณฺณสุขโต หทยงฺคมโตติ วจนเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ อนตฺตุกฺกํสนโตติอาทิ ปุคฺคลวเสน, กณฺณสุขโตติ โสตินฺทฺริยํ สนฺธายฯ อาปาถารมณียโตติ ญาณาปาถารมณียโตฯ สยเมว เหฏฺฐามุขชาตํ วา, มคฺโค ปน อโสโก โหติฯ ตทา หิ โสโก ปหียมาโนฯ จริยาทิอนุกูลโต อปฺปฏิกูลํ‘‘มธุรมิม’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ธมฺมมิม’’นฺติ วจนํ อธิกํ วิย ทิสฺสติฯ ตสฺมา ‘‘ราควิราคมิม’’นฺติ เอวํ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา ปุน ปิณฺเฑตฺวา ธมฺมมิมํ อุเปหีติ โยเชตพฺพํ, ‘‘ธมฺมเมว สรณตฺถมุเปหี’’ติ ปฐนฺติ กิราติ ทีเปติฯ สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุคฺคติํ ปริกฺกิเลสํ ทุกฺขํ หิํสตีติ รตนตฺตยํ สรณํ นามฯ ตปฺปสาทตคฺครุตาทีหิ วิหตกิเลโส ตปฺปรายนตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํฯ ตํสมงฺคีสตฺโต สรณํ คจฺฉติฯ ปเภเทน ปน ทุวิธํ สรณคมนํ โลกุตฺตรํ โลกิยนฺติฯ ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺฐสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติฯ โลกิยํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสํ ตทงฺควิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติฯ ตํ อตฺถโต รตนตฺตเย สทฺธาปฏิลาโภ สทฺธามูลิกา จ สมฺมาทิฏฺฐิฯ โลกุตฺตรสฺส จตฺตาริ สามญฺญผลานิ วิปากผลํ, สพฺพทุกฺขกฺขโย อานิสํสผลํฯ ‘‘โย จ พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ…เป.… สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. 190-192) หิ วุตฺตํฯ โลกิยสฺส ภวโภคสมฺปทาฯ ‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส’’ติ (ที. นิ. 2.332; สํ. นิ. 1.37) หิ วุตฺตํฯ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อญฺญาณสํสยมิจฺฉาญาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ โหติ, น มหาวิปฺผารํฯ โลกุตฺตรสฺส นตฺถิ สํกิเลโสฯ โลกิยสฺส สาวชฺโช อนวชฺโชติ ทุวิโธ เภโทฯ ตตฺถ อญฺญสตฺถาราทีสุ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีหิ สาวชฺโช โหติ, โส อนิฏฺฐผโลฯ อนวชฺโช กาลกิริยาย, โส อวิปากตฺตา อผโลฯ โลกุตฺตรสฺส เนวตฺถิ เภโทฯ ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อญฺญํ สตฺถารํ น อุทฺทิสติฯ โย โกจิ สรณคโต คหฏฺโฐ อุปาสโกฯ รตนตฺตยอุปาสนโต อุปาสโกฯ